บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 11 ก.ค.65 ผันผวนในแดนบวกและลบ จากความกังวลของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมถึงความกังวลการล็อกดาวน์ในประเทศจีน ที่อาจกระทบเศรษฐกิจโลก รวมทั้งในประเทศเริ่มมีผู้ติดเชื้อโควิดที่เร่งตัวขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,557.40 จุด ลดลง 0.47 จุด หรือ 0.03% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 46,061.27ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 573.46 จุด เพิ่มขึ้น 1.12 จุด หรือ 0.20 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3,276.62 ล้านบาท
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 3 นี้ คาดว่ายังอยู่ในภาวะพักฐานจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวจากความเสี่ยงเงินเฟ้อฯ และความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยืดเยื้อ ส่วนในประเทศคาดว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 10 ส.ค.นี้ จะมีการขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 3 ครั้งที่เหลือของปีนี้ ทำให้ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยไทยกับสหรัฐกว้างขึ้น ส่งผลต่อแนวโน้มเงินบาทที่มีโอกาสอ่อนค่ากว่า 36.00 บาท ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เงินทุนต่างชาติมีทิศทางไหลออก
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
1.ปตท.สผ. ปิดที่ 161.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
2.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 146.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
3.ปตท. ปิดที่ 34.00 บาท ลดลง -0.50 บาท
4.เอสซีบี ปิดที่ 102.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท
5.เอโอที ปิดที่ 70.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง