เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566 เวลา 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพลิงศพ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ณ เมรุวัดธาตุทอง พระอารามหลวง เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ซึ่งถึงแก่อนิจกรรม เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2566 ด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน สิริอายุ 81 ปี
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ อุดมศิลป์ เกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2485 เป็นบุตรของนายประชา กับ นางพาณี ศรีแสงนามบิดา
แบร์ลุสโคนี นายกอิตาลี 4 สมัย-อดีตเจ้าของทีมมิลาน เสียชีวิตในวัย 86 ปี
แฟนๆ อาลัย “พัคซูรยอน” นักแสดงสมทบ Snowdrop เสียชีวิตกะทันหัน ในวัย 29 ปี
จบการศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ และสำเร็จการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล Fellowship of the Royal College of Physicians มหาวิทยาลัยเอดินบะระ
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม เป็นผู้มีคุณูปการต่อวงการสาธารณสุขและสุขภาพ เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และรองคณบดี คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลคำพูดจาก เว็บตรง
รวมถึงเป็น ประธานคณะกรรมการเครือข่ายนโยบายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อป้องกันการฆ่าตัวตาย อีกทั้งเป็นผู้จุดประกายกระแสการวิ่งเพื่อสุขภาพ เขียนหนังสือสร้างแรงบันดาลใจ "วิ่งสู่ชีวิตใหม่" (พ.ศ. 2539) จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน ด้านครอบครัว สมรสกับ คุณมรกต ศรีแสงนาม มีบุตร-ธิดา 4 คน
นอกจากนั้น เมื่อเวลา 13.10 น. ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ครั้งที่ 6/2556 ที่มี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองประธานกรรมการกองทุน สสส. คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ได้แจ้งต่อที่ประชุม และกล่าวไว้อาลัยต่อการเสียชีวิตของ ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุน ความตอนหนึ่งว่า “ศ.นพ.อุดมศิลป์ เป็นเสาหลักของการสร้างเสริมสุขภาพไทยมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพจิต ด้านการควบคุมยาสูบ ด้านการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสิ่งเสพติด และด้านกิจกรรมทางกาย อาทิ เป็นผู้นำถ่ายทอดประสบการณ์การวิ่งผ่านหนังสือ วิ่งสู่ชีวิตใหม่ ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคนไทย อีกทั้งเป็นหัวเรือใหญ่ด้านการตลาดเพื่อสังคม ช่วยให้งานรณรงค์สื่อสารของ สสส. มีพลังในการเปลี่ยนแปลงสังคม รวมทั้งริเริ่มและพัฒนา “กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี” ให้กลายเป็นประเพณีทางเลือกสำคัญของคนไทยในปัจจุบัน” พร้อมเชิญชวนให้คณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมยืนสงบนิ่ง 1 นาที เพื่อเป็นการไว้อาลัย